ประกันสุขภาพสำหรับผู้ชาย รวมไปถึงประกันโรคร้ายแรง
เฟร็ดเดอริค โจเซฟ เฮกเนอร์,
ผู้จัดการสุขภาพส่วนภูมิภาค กลุ่มบริษัท ทูนโพรเทค: มุ่งเน้นที่ความเรียบง่ายและการสร้างการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าประกันภัยของเรา
เผยแพร่ 15 พฤศจิกายน 2021
โดยปกติแล้วเดือนพฤศจิกายนถือเป็นเดือนที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็น "เดือนสุขภาพของผู้ชาย" หรือมีชื่อทางการตลาดว่า "Movember" โดยคุณ Travis Garone และ Luke Slattery ทั้งสองเป็นชาวออสเตรเลียซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวการปลูกหนวดของพวกเขา เพื่อสนับสนุนการระดมทุนรักษามะเร็งเต้านมของคุณแม่ของเพื่อนพวกเขาในปี 2546
18 ปีต่อมา การเคลื่อนไหวลักษณะนี้ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องและได้รับการตอบรับที่ดี โดยปกติเรามักจะคิดว่าการมีเคราและหนวดเป็นการแสดงถึงความเป็นชาย แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนต้องการหรือจะสามารถไว้หนวดหรือเคราเพื่อที่จะสร้างความตระหนักรู้ในปัญหาสุขภาพของผู้ชายได้
แน่นอน ตัวผมเองก็กำลังพยายามไว้หนวดเพื่อแสดงการสนับสนุนเดือนสำคัญเดือนนี้ด้วยการไว้หนวดเคราสีเทาอ่อน ๆ ที่ทำขึ้นมาใหม่ (แต่ยังไม่ถึงห้าสิบเฉดสีนะ...) ผมเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กหรือเป็นคนแก่ก็ตาม (จะสามารถไว้หนวดได้หรือไม่ได้) ผู้ชายทุกคนทั่วโลกจำเป็นต้องรวมตัวกันเพื่อสนับสนุนและสร้างความตระหนักรู้อย่างจริงจังสำหรับปัญหาด้านโรคร้ายแรงของผู้ชาย เช่นมะเร็งต่อมลูกหมากและอัณฑะซึ่งเป็นโรคที่อันตรายสำหรับผู้ชายในช่วงสำคัญของชีวิตของพวกเขา
มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นชนิดของมะเร็งที่ถูกพบเจอบ่อยที่สุดเป็นอันดับสองในผู้ชายและเป็นอันดับสี่หากมองจากจำนวนการตรวจพบโรคมะเร็งโดยภาพรวม จากรายงานของกองทุนวิจัยมะเร็งโลกนั้น ในปี 2020
มีจำนวนผู้ชายมากกว่า 1.6 ล้านคนได้รับการตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากและในทุก ๆ ปีจะมีการตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 80 รายในผู้ชายทุก ๆ 100,000 คน และมากไปกว่านั้นตัวเลขเหล่านี้ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ข่าวดีก็คือการพัฒนาของเทคโนโลยีด้านการทดสอบแอนติเจนของต่อมลูกหมาก (หรือการทดสอบ PSA) ช่วยให้เราตรวจพบมะเร็งได้เร็วขึ้น ส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตลดน้อยลง โดยอัตราการรอดชีวิตในช่วงห้าปีหลังจากการตรวจพบโรคตั้งแต่เนิ่น ๆมีสูงถึง 98%
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าการทดสอบนั้นจะแม่นยำ 100% และหากตรวจพบหลังจากที่มะเร็งแพร่กระจายไปแล้ว อัตราการรอดชีวิตจะลดลงอย่างมากถึง 30% ตามรายงานของกองบรรณาธิการมะเร็ง
ในปี 2020 กองทุนวิจัยมะเร็งโลกระบุว่าผู้ชายกว่า 1.6 ล้านคนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก....หากตรวจพบหลังจากที่มะเร็งแพร่กระจายไปแล้ว อัตราการรอดชีวิตจะลดลงอย่างมากถึง 30%....
สำหรับมะเร็งอัณฑะแม้ว่าจะพบได้น้อยกว่า (พบในผู้ชายประมาณ 1.5 คน ในทุก ๆ 100,000 คน) แต่ก็มีความร้ายแรงไม่แพ้มะเร็งต่อมลูกหมากหากถูกตรวจพบในระยะลุกลาม ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา อัตราการตรวจพบของมะเร็งอัณฑะเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ชายที่อายุน้อยลง โดยปัจจุบันเรายังไม่ทราบสาเหตุของการเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 35 ปี คิดเป็น 12% ของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทั้งหมด ข่าวดีในตอนนี้คือผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งอัณฑะ (ระยะที่ 3 หรือต่ำกว่า) มีอัตราการรอดชีวิตถึง 90% โดยเช่นเดียวกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เราสามารถตรวจพบมะเร็งอัณฑะผ่านการทดสอบแอนติเจนได้ แต่อย่างไรก็ตาม จากการที่เราพบโรคนี้ในกลุ่มคนที่อายุน้อยลง ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้เด็กวัยรุ่นและกลุ่มผู้ชายที่อายุน้อยควรตรวจเช็คมะเร็งเป็นประจำเพื่อมองหาสิ่งผิดปกติในร่างกาย เช่น ก้อนเนื้อต่าง ๆ
สำหรับมะเร็งอัณฑะแม้ว่าจะพบได้น้อยกว่า (พบในผู้ชายประมาณ 1.5 คน ในทุก ๆ 100,000 คน) แต่ก็มีความร้ายแรงไม่แพ้มะเร็งต่อมลูกหมากหากถูกตรวจพบในระยะลุกลาม
ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การพบมะเร็งต่อมลูกหมากและอัณฑะกำลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยในประเทศไทยมะเร็งต่อมลูกหมากถือเป็นมะเร็งที่ถูกพบบ่อยเป็นอันดับที่ 4 รองจากมะเร็งปอด ตับ และมะเร็งลำไส้ และมีการตรวจพบผู้ป่วยประมาณ 7.5 รายในทุก ๆ 100,000 คนทุกปี
การตรวจพบโรคที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากการมีเครื่องมือการตรวจที่ดีขึ้น (การทดสอบ PSA มีให้บริการครั้งแรกในประเทศไทยในปี 2534) อัตราการรอดชีวิตในระยะ 5 ปีของมะเร็งต่อมลูกหมากในประเทศไทยนั้นถือว่าต่ำมาก (ประมาณ 63%) เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่สูงถึง 90% (เนื่องจากตรวจพบผู้ป่วยในระยะเริ่มต้นของการเป็นมะเร็งนั้นเพิ่มขึ้น) ในประเทศมาเลเซีย อัตราส่วนการตรวจพบมะเร็งต่อมลูกหมากจะอยู่ที่ประมาณ 6.3 คนในทุก ๆ การตรวจ 100,000 คน โดยมีอัตราการรอดชีวิตในช่วงห้าปีที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 70%
อัตราการรอดชีวิตในระยะ 5 ปี ของมะเร็งต่อมลูกหมากในประเทศไทยนั้นถือว่าต่ำมาก (ประมาณ 63%) เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่สูงถึง 90% (เนื่องจากตรวจพบผู้ป่วยในระยะเริ่มต้นของการเป็นมะเร็งนั้นเพิ่มขึ้น)
สำหรับมะเร็งอัณฑะ มีอัตราการตรวจพบผู้ป่วย 1 รายในทุก ๆ 100,000 คน และอัตราการรอดชีวิตในระยะ 5 ปี โดยรวมในประเทศไทยและประเทศมาเลเซียสูงถึง 85% และ 90% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม โรคนี้เป็นโรคที่ร้ายแรงสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการตรวจพบมะเร็งตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่น ในช่วงอายุ 15 ถึง 40 ปี มะเร็งอัณฑะถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ หากเทียบกับชนิดของมะเร็งทั้งหมดที่เกิดขึ้นในผู้ชาย
[มะเร็งลูกอัณฑะ] โรคนี้เป็นโรคที่ร้ายแรงสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่น ในช่วงอายุ 15 ถึง 40 ปี มะเร็งอัณฑะถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ หากเทียบกับชนิดของมะเร็งทั้งหมดที่เกิดขึ้นในผู้ชาย
ที่ Tune Protect Thailand เราต้องการสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาสุขภาพของผู้ชายและโรคมะเร็ง เช่น ต่อมลูกหมากและอัณฑะที่ส่งผลโดยตรงต่อผู้ชาย ในประเทศไทยเราเพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันโรคร้ายแรง "myFlexi CI" กับ PGH ซึ่งเป็นบริษัทคู่ค้าที่เป็นผู้นำด้าน “การบริการความเห็นที่สองทางการแพทย์” หากลูกค้าของเราถูกตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งระยะเริ่มต้นหรือระยะสุดท้าย เราจะจ่ายเงินก้อนให้กับลูกค้าซึ่งสิ่งนี้ทำหน้าที่เหมือนเกาะป้องกันที่ทำให้ลูกค้าของเรารู้สึกสบายใจในกรณีที่พวกเขาไม่สามารถทำงานได้หรือมีภาระต่าง ๆ ที่ต้องใช้จ่ายในครอบครัว
บริษัท PGH พันธมิตรของเราจะให้บริการความเห็นที่สองทางการแพทย์และแผนการรักษาเฉพาะทางผ่านโปรแกรม myEliteDoctor เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของลูกค้าของเราและเพิ่มอัตราการรอดชีวิตหากตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง
หากลูกค้าของเราถูกตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งระยะเริ่มต้นหรือระยะสุดท้าย เราจะจ่ายเงินก้อนให้กับลูกค้า ซึ่งสิ่งนี้ทำหน้าที่เหมือนเกาะป้องกันที่ทำให้ลูกค้าของเรารู้สึกสบายใจในกรณีที่พวกเขาไม่สามารถทำงานหรือมีภาระต่าง ๆ ที่ต้องใช้จ่ายในครอบครัว
ตามข้อมูลด้านล่างนี้ เราได้แจกแจงค่าใช้จ่ายของการรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทย เพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นว่า ทำไมประกันโรคร้ายแรง เช่น myFlexi CI จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยจะทำหน้าที่ในการช่วยเหลือครอบครัวของผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นผู้มีรายได้หลักและอาจจะถูกบังคับให้ต้องหยุดงาน (หรือไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป) เนื่องจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง
เราจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้านโรคร้ายแรงในประเทศมาเลเซียและประเทศกัมพูชา เวียดนาม และตะวันออกกลางในปี 2565 ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรประกันภัย เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์สำหรับโรคร้ายแรงเป็นผลิตภัณฑ์หลักสำหรับธุรกิจด้านสุขภาพของเรา โดยเราต้องการที่จะไปอยู่ในจุดที่เราสามารถปกป้อง ช่วยเหลือลูกค้าของเราจากโรคมะเร็งและโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้
เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์สำหรับโรคร้ายแรงเป็นผลิตภัณฑ์หลักสำหรับธุรกิจด้านสุขภาพของเราโดยเราต้องการที่จะไปอยู่ในจุดที่เราสามารถปกป้อง ช่วยเหลือลูกค้าของเราจากโรคมะเร็งและโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้
สำหรับผู้ชายทุกคน: ขอให้ทุกคนเริ่มพิจารณาการตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากและอัณฑะเป็นประจำ และขอให้เรา Tune Protect Thailand เป็นพันธมิตรในการดูแลสุขภาพของคุณ เราไม่เพียงแต่จะนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ที่สร้างคุณค่าให้กับลูกค้า แต่เราจะเป็นเพื่อนคู่คิดกับคุณตลอดการเดินทางเพื่อสุขภาพของคุณ
และทั้งหมดนี้เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณในเดือนแห่งสุขภาพของผู้ชายนี้ Movember ไม่ว่าคุณจะมีหนวดบนใบหน้าหรือไม่ก็ตาม