10 พิกัดฮิต เคาท์ดาวน์ต่างประเทศ แค่มีพาสปอร์ตก็เที่ยวได้
เทศกาลที่หลายคนรอคอยเริ่มใกล้เข้ามาถึงแล้ว นั่นก็คือช่วงปีใหม่ ใครหลายคนก็ได้มีการวางแผนเที่ยวกันบ้างแล้ว แต่สำหรับหลายคนยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหนดี อยู่ไทยก็อาจจะเบื่อ บทความนี้จะมาแชร์โลเคชั่นยอดนิยมในการเดินทางไปเคาน์ดาวน์ต่างประเทศ เรียกได้ว่า ยิ่งใหญ่ อลังการแน่นอน มาดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้าง
10 พิกัดฮิต เคาท์ดาวน์ต่างประเทศ
1. เกาหลี – ริมแม่น้ำฮัน
โลเคชั่นยอดฮิตทั้งในชีวิตจริงและในซีรีส์ สำหรับสถานที่นี้ใครที่ชอบบรรยากาศสบาย ชื่นชอบความโรแมนติก จุดนี้ถือว่าเป็นหนึ่งสถานที่ที่สามารถเคาท์ดาวน์ได้ ด้วยวิวสวยๆ ของสวนสาธารณะ ที่ทำให้สามารถเห็นวิวสองข้างทาง แม่น้ำ ต้นไม้และดอกไม้สวยๆ อีกทั้งยังมีร้านอาหารและคาเฟ่เปิดให้บริการ ใครจะมาจิบไวน์ชมวิวแม่น้ำฮัน พร้อมชม ดอกไม้ไฟและบรรยากาศในยามกลางคืนที่แสนจะตื่นตาตื่นใจของกรุงโซล โดยการเดินทางมาที่นี่ ให้ขึ้นรถไฟใต้ดิน สาย 3 (สีส้ม) มาลงที่สถานีจัมวอน (Jamwon Station) ทางออก 4 จากนั้นเดินไปทางแม่น้ำฮัน ใช้เวลาประมาณประมาณ 20 นาที
2. เกาหลี – Lotte World Tower
อีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องมาเช็กอินในวันเคาน์ดาวน์ให้ได้ เพราะถือได้ว่าเป็นการเฉลิมฉลองวันปีใหม่ที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่เกาหลีเลย ก่อนหน้านี้จะมีการแสดงพลุไฟสุดแสนอลังการ จึงก่อให้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้อากาศในบริเวณใกล้เคียง Lotte World Tower เต็มไปด้วยฝุ่นควันของดอกไม้ไฟ ทำให้ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเฉลิมฉลองเป็นการแสดงเลเซอร์ ซึ่งถือว่าทำออกมาได้น่าประทับใจ โดยในปีนี้จะมีไฮไลท์อะไรพิเศษ ก็ต้องรอติดตามไปพร้อมกัน แต่รับประกันความอลังการอย่างแน่นอน โดยการเดินทางมาที่นี่ ให้ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 (สีเขียว) หรือ สาย 8 (สีชมพู) ลงสถานี Jamsil จากนั้นใช้ทางออกที่ 2 จะเจอทางเข้าห้าง Lotte World Mall ที่เชื่อมกับทางเดินรถไฟฟ้า
3. สิงคโปร์ – Marina Bay
แลนด์มาร์กสำหรับการเคาน์ดาวน์ที่สิงคโปร์ต้อง Marina Bay เท่านั้น เพราะถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่สุด และถือได้ว่าเป็นประสบการณ์สุดพิเศษในช่วงคืนข้ามปีเลยทีเดียว โดยที่นี่จะมีการประดับตกแต่งด้วยไฟ LED สวยงามนับล้านดวง ซึ่งในแต่ละปีก็มีธีมไม่เหมือนกัน โดยในแต่ละปีก็จะมีเรื่องราวและศิลปะต่างๆ ได้ถูกจัดขึ้นที่นี่ รวมถึงมีการแสดงดนตรีสดและการแสดงอื่นๆ ที่ตระการตาอีกด้วย โดยการเดินทางมาที่นี่ แค่นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงที่สถานี Bayfront ทางออก B C D E เมื่ออกมาจากสถานีก็จะพบกับอาคารสูงมีเอกลักษณ์ด้วยรูปร่างคล้ายเรือ
4. ฮ่องกง – Victoria Harbour
นอกจากที่นี่จะเป็นจุดมุ่งหมายที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแล้ว ภายในช่วงวันปีใหม่ ที่นี่ก็ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่สำคัญในการจัดงานเฉลิมฉลอง แน่นอนว่าทั้งชาวฮ่องกงและนักท่องเที่ยวก็จะมารวมกันอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก ด้วยความที่เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและขึ้นชื่อเรื่องความงามของวิวยามค่ำคืนและจุดชมวิวที่สวยในฮ่องกง แถมยังมีการจัดแสดงแสง สี เสียง รวมถึงดอกไม้ไฟในวันงานเฉลิมฉลอง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงเลือกมาเคาน์ดาวน์ที่นี่ โดยการเดินทาง ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ลงสถานี Tsim Sha Tsui ทางออก F
ไต้หวัน Taipei 101 พิกัดฮิตเคาท์ดาวน์ต่างประเทศ
5. ไต้หวัน – Taipei 101
ตึก Taipei 101 ที่ไต้หวันนอกจากจะเป็นแลนด์มาร์กของที่นี่แล้ว ยังพ่วงด้วยตำแหน่งซิกเนเจอร์ในช่วงวันเคาน์ดาวน์ ด้วยความที่เป็นตึกสูงเด่นและมีการจัดแสดงดอกไม้ไฟในช่วงวันปีใหม่ โดยการจัดแสดงดอกไม้ไฟที่นี่จะแตกต่างจากที่อื่น โดยโชว์จะเริ่มตั้งแต่การนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ การจุดดอกไม้ไฟจะออกมาจากตัวตึก โดยไล่การจุดจากข้างล่างไปถึงข้างบนของตัวตึกไปข้างบน ซึ่งที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นเหมือนนาฬิกานับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย โดยการเดินทางมาที่นี่ ขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี MRT Taipei101 (R03) หรือ MRT Taipei City Hall (BL18) ก็จะถึงตึกเลยทันที
6. ญี่ปุ่น – Tokyo Disney
สำหรับใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศวันเคาน์ดาวน์ ที่ได้ย้อนวัยกลับไปสู่ความเป็นเด็ก ต้องที่ Tokyo Disney Land และ Tokyo Disney Sea สองโซนนี้ในช่วงปีใหม่ก็มีจัดงานเฉลิมฉลองและมีปาร์ตี้เคาท์ดาวน์ ภายในงานก็มีทั้งดอกไม้ไฟ โชว์จากตัวละครดิสนีย์สุดอลังการ แถมยังมีเมนูอาหารที่พิเศษเฉพาะเมศกาลปีใหม่ รวมถึงมีสินค้าพิเศษวางขายให้กับนักท่องเที่ยว โดยกิจงานนี้จะเริ่มตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของวันที่ 31 ธันวาคม จัดยาวไปถึงเช้าอีกวันของวันปีใหม่เลยทีเดียว การเดินทางมาที่นี่ ให้นั่งรถไฟสาย JR Keiyo Line, Musashino Line หรือ Tozai Line มาลงยังสถานี Maihama ลงจากสถานีเดินไปยังทางเข้าอีกประมาณ 10 นาที (จากกรุงโตเกียว)
7. ญี่ปุ่น – วัดโซโจจิ
เปลี่ยนรูปแบบการเคาน์ดาวน์จากการเฉลิมฉลองหรือปาร์ตี้ มาเป็นการเข้าวัดเพื่อขอพรปีใหม่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ที่มักจะเข้าวัดเพื่อสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่ทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่นิยมช่วงเคาน์ดาวน์เพราะ ความหมายของชื่อวัดที่มีความหมายที่ดี และไม่ไกลจากโตเกียวทาวเวอร์ ใครที่ชื่นชอบความเรียบง่าย อยากมารับพลังบวกเพื่อเริ่มต้นปีใหม่ ที่นี่เป็นอีกที่ที่น่าสนใจ โดยการเดินทางมาที่นี่ ให้นั่งรถไฟสาย JR Yamanoteและ JR Keihin-Tohoku Line มาลงที่สถานี Hamamatsucho จากนั้นเดินเท้าต่ออีกประมาณ 10 นาที ก็ถึงวัดโซโจจิ
8. บราซิล – Copacabana Beach
ช่วงปีใหม่ทั้งที การได้เดินทางเคาน์ดาวน์ไปต่างประเทศ ถือว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ในชีวิต ที่บราซิลนี้นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ได้ 90 วัน และ Copacabana Beach ก็เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญช่วงเคาน์ดาวน์ โดยผู้คนกว่าสองล้านคนจะมารวมตัวกันที่หาดแห่งนี้เพื่อดื่มและปาร์ตี้เฉลิมฉลอง และ ชมดอกไม้ไฟ รวมถึงมีการโปรยดอกไม้เพื่อเป็นการเคารพแก่เทพเจ้าแห่งท้องทะเล และการเดินทางมาที่นี่ สามารถขับรถมาได้เลย จากตัวเมือง Rio de Janeiro
9. เวียดนาม – Nguyen Hue Walking Street
ลานกว้างใจกลางเมืองโฮจิมินห์ที่อยู่ท่ามกลางอาคารสูงและตึกสวยๆ มากมาย โดยช่วงวันเคาน์ดาวน์ ที่นี่จะมีความคึกคักมาก เพราะผู้คนและร้านค้าก็ได้จัดและตกแต่งสถานที่ให้สวย ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวและเคานืดาวน์ที่นี่ โดยที่นี่มีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่เปิดให้บริการ อีกทั้งยังอยู่ใกล้ The Cafe Apartment ที่เป็นซิกเนเจอร์ของย่านนี้เลย การเดินทางมาที่นี่ สามารถเดินทางผ่านแอพลิเคชันเรียกรถ แล้วปักหมุดสถานที่ได้เลย เดินทางสะดวกมาก
10. มาเลเซีย – KLCC Park
สวนสาธารณะใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ สร้างขึ้นเป็นที่พักผ่อน ออกกำลังกาย มีสระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น และทะเลสาบขนาดใหญ่ ซึ่งช่วงปีใหม่ก็จะมีการจัดแสดงแสง สี เสียง สุดอลังการ อีกทั้งที่นี่ยังอยู่ใกล้ตึกแฝดอย่างมาก ช่วงเคาน์ดาวน์ปีใหม่ ที่นี่ก็จะมีการประดับประดา ตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาร่วมฉลองเทศกาลนี้ โดยการเดินทางนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถราง KJL จากสถานีรถไฟ KL Sentral ไปลงที่สถานี KLCC แล้วเดินต่ออีกประมาณ 550 เมตร หรือสามารถใช้บริการผ่านแอพลิเคชันเรียกรถได้
แน่นอนว่าการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศนั้น เป็นการอยู่ต่างบ้านต่างเมือง จึงทำให้ไม่เกิดความคุ้นชิน หากเกิดการบาดเจ็บหรือป่วยขึ้นมา นั่นหมายความว่าจะมีการดำเนินการยากกว่าอยู่ที่ไทยหลายเท่า เพราะจะเป็นต้องมีการประสานงานหลายฝ่าย เพราะเราไม่ใช่ประชาชนของประเทศนั้น ซึ่งในการเข้ารับการรักษาก็จะมีความยุ่งยาก ทางที่ดีควรมีประกันเดินทางต่างประเทศ ติดไว้ทุกทริป ทุกการเดินทาง
iTravel ประกันภัยเดินทางต่างประเทศ
ขอแนะนำประกันภัยเดินทางต่างประเทศที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวทุกรูปแบบ นั่นก็คือ ประกันภัยเดินทางต่างประเทศ iTravel จากทูนโพรเทค ให้ความคุ้มครองยามเจ็บป่วย อุบัติเหตุฉุกเฉิน เสียชีวิต ขณะอยู่ต่างประเทศสูงสุด 5,000,000 บาท* อีกทั้งยังคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล สูงสุด 4,000,000 บาท* และกรณีไฟลท์ยกเลิก ตกเครื่อง หรือ ถูกยกเลิกการเดินทาง ชดเชยสูงสุด 35,000 บาท* แถมหากเกิดกระเป๋าเดินทางและทรัพย์สินส่วนตัวเสียหาย ได้รับความคุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท* เรียกได้ว่าคุ้มครองครอบคลุมทั่วโลกมากกว่า สบายใจทุกที่ทุกเวลาเมื่อเดินทาง การันตีความมั่นใจกว่า 1 ล้านคนต่อปีที่ทำประกันเดินทาง
โปรโมชั่นสุดพิเศษ เมื่อซื้อประกันภัยเดินทางต่างประเทศ iTravel
พิเศษ! เมื่อซื้อประกันภัยเดินทางต่างประเทศ iTravel ผ่านเว็บไซต์ รับฟรี! บัตรสตาร์บัคส์ เพียง กรอกโค้ด itravel2023
- เบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไป รับบัตรส่วนลดสตาร์บัคส์ มูลค่า 100 บาท* (100 รางวัล)
- เบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไป รับบัตรส่วนลดสตาร์บัคส์ มูลค่า 200 บาท* (50 รางวัล)
- เบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 1,200 บาทขึ้นไป รับบัตรส่วนลดสตาร์บัคส์ มูลค่า 300 บาท* (50 รางวัล)
- เบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 2,700 บาทขึ้นไป รับบัตรส่วนลดสตาร์บัคส์ มูลค่า 600 บาท* (50 รางวัล)
พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันเดินทางแบบรายปี ยอดซื้อเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป รับกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ (ขนาด 20 นิ้ว) ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 66 - 31 ธ.ค. 66 หรือจนกว่าจะครบสิทธิ์ ทีมงานจะจัดส่งของรางวัลภายใน 45 วันทำการ หลังจบระยะเวลาแคมเปญโปรโมชัน *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขของเอกสารเสนอขายก่อนตัดสินใจทำประกันภัย เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด สนใจสอบถามเพิ่มเติม: 1183 หรือ Line@: @tuneprotect
เทศกาลปีใหม่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ในแต่ละปีและยังเป็นบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง ใครที่เคาน์ดาวน์ที่ไทยมาหลายปี แนะนำให้เปลี่ยนบรรยากาศเดินทางไปเคาน์ดาวน์ต่างประเทศ เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ แถมยังได้พักผ่อน เที่ยวเล่น ชอปปิงในคราวเดียว และที่สำคัญอย่าลืมที่จะทำประกันการเดินทางก่อนการเดินทางทุกครั้ง เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ