การแยกระดับผู้ป่วยโควิด-19 เขียว เหลือง แดง
สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ดูเหมือนจะยังไม่จางหายไปจากสังคมในเร็ววัน เพราะในปัจจุบันก็ได้มีการกลับมาแพร่ระบาดอย่างหนัก จนยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงมากขึ้นในทุกๆ วัน แถมยังเป็นโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ถึงแม้เมื่อติดแล้วอาการจะไม่รุนแรง แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก
จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเรียนรู้การรับมือกับโรคร้ายนี้ Tune Protect Thailand ขอนำเสนอข้อมูลการแยกระดับผู้ป่วยโควิด-19 ใน 3 ประเภท ได้แก่ กลุ่มสีเขียว กลุ่มสีเหลือง และ กลุ่มสีแดง เพื่อให้ทุกๆ คนสามารถประเมินอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นของตัวเองได้ และ ได้รับการรักษาที่ตรงตามอาการ หรือสามารถทำการ Home Isolation เมื่อเจอปัญหาเตียงในโรงพยาบาลไม่เพียงพอกับผู้ป่วย
ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว
อาการสีเขียว อาการเบื้องต้นของผู้ติดเชื้อ ถือเป็นกลุ่มของผู้ติดโควิด-19 ที่ไม่ได้มีอาการรุนแรงมาก หรือ อาจมีอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป โดยสามารถสังเกตอาการได้ดังต่อไปนี้
- มีไข้ตั้งแต่อุณภูมิ 37.5 องศาเป็นต้นไป
- ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก
- จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
- ตาแดง มีผื่นขึ้นตามร่างกาย
- มีอาการถ่ายเหลว
- หายใจปกติ ไม่เหนื่อยหอบ
ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเหลือง
อาการสีเหลือง เริ่มมีอาการเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง ถือเป็นกลุ่มของผู้ติดโควิด-19 ที่เริ่มมีความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรง โดยสามารถสังเกตอาการได้ดังต่อไปนี้
- มีอาการถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้ง/วัน
- แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หรือ หายใจหอบ
- อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ
- เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีน้ำหนักมากเกินเกณฑ์ (โรคอ้วน)
- เป็นผู้มีความเสี่ยงจากลุ่มโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคปอดอุดตันเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคตับแข็ง ฯลฯ
ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีแดง
อาการสีแดง ผู้ป่วยอาการหนัก ถือเป็นกลุ่มของผู้ติดโควิด-19 ที่ต้องเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลโดยด่วน โดยสามารถสังเกตอาการได้ดังต่อไปนี้
- เหนื่อยหอบ หายใจแล้วเจ็บหน้าอก
- พูดไม่เป็นประโยค
- มีอาการซึม หรือ ตอบสนองช้า
- เอกซเรย์แล้วพบว่ามีอาการปอดอักเสบรุนแรง
จาการแยกระดับผู้ป่วยโควิด-19 แดง เหลือง เขียว ที่ได้นำมาฝาก คงจะช่วยให้ทุกคนสามารถดูแลตัวเองในเบื้องต้น และแยกแยะอาการเจ็บป่วยได้ในระดับนึง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านอกจากการปฏิบัติตัวตามมาตรการความปลอดภัย และ การดูแลตัวเองให้ไม่เผชิญความเสี่ยงแล้ว การมีแผนประกัน COVID-19 ที่คุ้มครองอย่างครอบคลุม ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยขึ้นอีกขั้น
เซฟก่อน ก็ชัวร์กว่าด้วย ประกันคุ้มครองโควิดและแพ้วัคซีน
ด้วยสถานการณ์โควิด-19 มีความเสี่ยงสูง ติดเชื้อง่าย ถึงแม้จะระวังตัวเองขนาดไหน คุณก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าการออกจากบ้านแต่ละครั้งจะต้องเจอกับความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 จากที่ไหนบ้าง การรับมือกับโรคที่ติดต่อกันได้ง่าย ก็ต้องมีตัวช่วยที่จะ Safe ให้คุณอุ่นใจ กับแผนประกัน VSafe COVID ประกันคุ้มครองโควิดและแพ้วัคซีน
จ่ายหลักร้อย คุ้มครองหลักล้าน ด้วยเบี้ยประกันเริ่มต้น 2 บาท/วัน*
- คุ้มครองการเจ็บป่วยที่มีสาเหตุมาจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุด 1,000,000 บาท*
- อาการโคม่าจากผลกระทบจากการฉีดวัคซีน รับสูงสุด 1,000,000 บาท*
- ค่ารักษาผู้ป่วยใน (IPD) แพ้วัคซีน คุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท*
- คุ้มครองผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกยี่ห้อ*
- ชดเชยรายได้จากการรักษาผู้ป่วยใน (IPD) แพ้วัคซีน 1,000 บาท/วัน (สูงสุด 14 วัน)*
แนวทางความคุ้มครองเรื่องโควิดในผู้ป่วยแต่ละระดับ
ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว : ผู้ป่วยในโรงพยาบาล (IPD), ผู้ป่วยใน Hospitel (IPD), Home Isolation (OPD) คุ้มครองค่าแพทย์เยี่ยม ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ ค่ายา และ ค่ารถพยาบาล
ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเหลือง และ สีแดง : ผู้ป่วยในโรงพยาบาล (IPD), ผู้ป่วยใน Hospitel (IPD) คุ้มครองค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาลผู้ป่วยใน ค่าบริการโรงพยาบาลผู้ป่วยใน ค่าแพทย์เยี่ยม ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ ค่ายา และ ค่ารถพยาบาล
ท่ามกลางความเสี่ยงที่รุมเร้ารอบด้าน Tune Protect หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประกัน COVID-19 จะเป็นหลักประกันความอุ่นใจทางสุขภาพของคุณ เพื่อร่วมผ่านสถานการณ์วิกฤตในครั้งนี้ไปได้ ด้วยแผนประกัน VSafe COVID ประกันคุ้มครองโควิดและแพ้วัคซีน
นอกจากนั้นยังมีบริการเพื่อการดูแลขั้นกว่า สำหรับลูกค้า Tune Protect โดยเฉพาะ กับ Health2GO * ไม่ว่าจะเจ็บป่วยที่ไหน เมื่อไหร่ ก็สามารถปรึกษาแพทย์ส่วนตัวแบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งทางแชท คอลออดิโอ และ วิดีโอคอล ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อเพิ่มความเสี่ยง สะดวก และ เป็นส่วนตัว มั่นใจได้ว่าข้อมูลทางการแพทย์ทุกอย่างจะถูกเก็บเป็นความลับ
*เงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์ ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด เงื่อนไขและความคุ้มครองก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
**โปรดนำใบรับรองการฉีดวัคซีนมาที่โรงพยาบาลในวันเข้ารับการรักษา เพื่อยื่นในกรณี ไม่ต้องสำรองจ่าย