5 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อประกันทรัพย์สินภายในบ้าน
ทุกวันนี้ความไม่แน่นอนสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ บ้านหนึ่งหลังที่ซื้อมาจากน้ำพักน้ำแรง และถือได้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการใช้ชีวิต และถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงมาก ด้วยความที่บ้านไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้ อุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นภัยทางธรรมชาติหรือภัยจากมนุษย์เองก็ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้สร้างความกังวลใจให้กับเจ้าบ้านเป็นอย่างมาก วันนี้มาทำความเข้าใจก่อนที่จะซื้อประกันทรัพย์สินภายในบ้าน ก่อนตัดสินใจทำประกัน
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอ่านที่ บทความ : ประกันภัยทรัพย์สินภายในบ้านคุ้มครองอะไรบ้าง
1. ความคุ้มครองที่ต้องการ
ก่อนมีการตัดสินใจในการทำประกันทรัพย์สินภายในบ้าน จำเป็นต้องมีการประเมินและสำรวจความเสี่ยงของตัวบ้านและพื้นที่บริเวณโดยรอบ ว่าอาจจะเกิดปัญหาใดได้บ้าง โดยความคุ้มครองต่างๆ เจ้าบ้านสามารถตัดสินใจซื้อได้ตามความต้องการ ซึ่งประกันทรัพย์สินสามารถช่วยดูแลและเยี่ยวยาหลังจากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ ฟ้าผ่า การระเบิด ภัยจากยานพาหนะหรือสัตว์พาหนะ (ช้าง ม้า วัว ควาย) ภัยจากอากาศยานหรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน และภัยอันเนื่องจากน้ำได้
2. เงินทุนประกันที่เหมาะสม
ในการคำนวณเงิน เจ้าบ้านจะต้องแยกเอาราคาที่ดินออก โดยคิดจากราคาสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินภายในที่อยู่อาศัยมาคำนวณทุนประกันที่เหมาะสม เช่น ราคาสิ่งปลูกสร้างหรือตัวอาคาร 1,000,000 บาท (ไม่รวมฐานราก) และราคาทรัพย์สินภายในอาคารตกแต่งเพื่อการอยู่อาศัย 1,000,000 บาท ทุนประกันอัคคีภัยที่เหมาะสม คือ 2,000,000 บาท (1,000,000 บาท + 1,000,000 บาท) ซึ่งไม่ควรทำประกันเกินมูลค่าบ้านและทรัพย์สินภายในบ้าน เพราะบริษัทประกันจะชดเชยค่าสินไหมทดแทน ให้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินมูลค่าของทรัพย์สินที่ได้ทำประกันไว้ ดังนั้นถ้าเลือกทุนประกันที่เหมะสม ก็จะจ่ายเบี้ยประกันได้ในราคาสบายๆ เลยทีเดียว
3. เงื่อนไขการเอาประกัน
ในจุดนี้จำเป็นต้องมีการศึกษาเงื่อนไขในการเอาประกันให้ชัดเจน เพราะการให้ความคุ้มครองจะคุ้มครองบ้านทุกประเภท ยกเว้น บ้านไม้ทั้งหลัง รวมถึงไม่คุ้มครองความเสียหายอื่นๆ เช่น ความเสียหายจากภัยสงคราม การกบฏ การปฏิวัติ ความเสียหายจากการแผ่รังสี การแพร่กัมมันตภาพรังสี ความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า แผงวงจรไฟฟ้า ที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และความเสียหายจากการเผาทำลายทรัพย์สิน โดยคำสั่งเจ้าหน้าที่หรือพนักงานผู้มีอำนาจตามกฎหมาย
4. การเลือกชำระเบี้ย
ในการชำระเบี้ยตามจำนวนปีที่มากขึ้น ส่งผลให้เบี้ยประกันเฉลี่ยต่อปีลดลง เจ้าของที่อยู่อาศัยประหยัดเบี้ยประกันได้มากขึ้น ทั้งนี้เมื่อความคุ้มครองเท่าเดิม เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี มูลค่าทรัพย์สินอาจเปลี่ยนแปลง เจ้าของที่อยู่อาศัยจึงควรสำรวจทุนประกันภัยให้เหมาะสมกับมูลค่าทรัพย์สินด้วย นอกจากนี้ช่องทางการชำระเบี้ยควรสะดวกและปลอดภัย มีหลักฐานการชำระให้ชัดเจน
5. บริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ
ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัยล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าบ้านว่าจะได้รับคุ้มครองอย่างถึงที่สุด อีกทั้งสิ่งที่บริษัทประกันเสนอให้นั้นก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจทำประกันภัยบ้าน เช่น การได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน โปรโมชันที่คุ้มค่า ความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ การบริการหลังการขาย หรือการติดตามผลเพื่อต่อประกันในปีถัดไป อีกด้วย
ประกันทรัพย์สินภายในบ้าน myHomeSmart จาก ทูน โพรเทค
ในการทำประกันภัยบ้านหรือประกันทรัพย์สินภายในบ้าน ถือว่าตอบโจทย์เจ้าของบ้าน ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และแน่นอนว่าจะได้รับการชดเชยที่คุ้มค่า ซึ่ง ประกันภัยบ้าน myHomeSmart จาก ทูน โพรเทค ถือว่าตอบโจทย์ ครบทุกความต้องการที่สุด โดยเลือกคุ้มครองบ้านได้สูงสุด 20 ล้านบาท* จ่ายเบี้ยสบาย เริ่มต้นแค่ 3 บาทต่อวัน* และในกรณีถูกลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ คุ้มครองสูงสุด 2 แสนบาท* อีกทั้งยังได้รับฟรี! บริการดูแลบ้านโฮมแคร์ (Fixit)
ในการซื้อประกันภัยบ้านและประกันทรัพย์สิน ควรพิจารณาและศึกษารายละเอียดให้ถี่ถ้วน เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่จ่าย อีกทั้งการมีประกันก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ประกันแผนนี้จะช่วยรองรับความเสี่ยงและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดความเสียหาย ได้รับการชดเชยเป็นเงินสินไหมทดแทน
*ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขของเอกสารเสนอขายก่อนตัดสินใจทำประกันภัย เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด สนใจสอบถามเพิ่มเติม: 1183 หรือ Line@: @tuneprotect